5 อาชีพไหน ที่ A.I. จะยังมาแทนที่มนุษย์ไม่ได้!

Share on facebook
Share on twitter
  • แม้ว่าสกิลด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีจะเป็นสกิลที่มีความต้องการสูงมากในอนาคตอันใกล้ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะอาชีพที่ยังต้องการมนุษย์นั้นจะลดน้อยลง
  • ดังนั้นบทความนี้จึงจะแนะนำถึงอาชีพที่ยังจะมีความต้องการในอีก 5-10 ปีข้างหน้า เผื่อหลายๆคนต้องการจะเตรียมตัวรับมือกับความเปลี่ยนแปลง

อย่างที่ทราบกันดีในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา คอมพิวเตอร์ หุ่นยนต์ และ A.I. ได้เปลี่ยนแปลงลักษณะและบทบาทของงานแทบจะทุกสายงาน ระบบ A.I. สามารถประมวลผลข้อมูลนับล้านภายในไม่กี่วินาที กลับกันถ้าเป็นมนุษย์ ก็คงใช้เวลานานกว่ามาก 

ระบบอัตโนมัติและ A.I. กำลังกระตุ้นการปฏิวัติครั้งใหม่ตั้งแต่ไอทีไปจนถึงการผลิต ทำให้ความต้องการในตลาดแรงงานนั้นลดน้อยลงในปัจจุบัน เพราะฉะนั้นเทรนด์นี้ก็น่าจะทำให้ผู้คนกังวลเรื่องความมั่นคงในงานไม่มากก็น้อย

แม้ว่าสกิลด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีจะเป็นสกิลที่มีความต้องการสูงมากในอนาคตอันใกล้ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะอาชีพที่ยังต้องการมนุษย์นั้นจะลดน้อยลง สาเหตุหลักๆ ก็เพราะว่า AI ไม่มีสติปัญญาทางอารมณ์ (Emotional Intellect) นั่นเอง การที่ระบบ A.I., Automations นั้นรวดเร็ว และแม่นยำ สิ่งเหล่านี้นั้นไม่มี soft skills อย่างเรา อีกทั้งพวก สัญชาตญาณ ความเห็นอกเห็นใจ และความสามารถเหล่านี้เองที่ทำให้มนุษย์เรานั้นมีประสิทธิภาพมากกว่าระบบพวกนี้

ดังนั้น Mydemy จึงจะแนะนำถึงอาชีพที่ยังจะมีความต้องการในอีก 5-10 ปีข้างหน้า เผื่อหลายๆคนต้องการจะเตรียมตัวรับมือกับความเปลี่ยนแปลง หากงานที่ทำอยู่ในปัจจุบันอาจจะถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีใหม่อย่าง AI เพราะยังมีอีกหลายสกิลและอาชีพมากที่อย่างน้อยๆ ในอนาคตอันใกล้นี้ A.I. ก็ไม่สามารถมาแทนที่มนุษย์ได้ มีดังนี้:

  1. Recruiter: ทุกวันนี้ AI กับ Machine learning จะมีโปรแกรมที่ช่วยให้องค์กรได้ช่วยรับคนเข้ามาทำงานมากขึ้น เช่นซอฟท์แวร์ CRM หรือ โปรแกมที่ช่วยสกรีนเรซูเม่ แต่ถึงยังไง HR ก็ยังต้องใช้ความสามารถของมนุษย์เป็นหลัก เพราะ  recruiter ส่วนใหญ่จะมองข้ามคุณสมบัติของผู้สมัคร แค่ CV อย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอหรอก เพราะ HR จะสามารถมองหา passion และยังสามารถประเมินทัศนคติของแคนดิเดตว่าจะเหมาะกับทีมได้มั้ย และยังสามารถวัดบุคลิกภาพของผู้สมัครตามวัฒนธรรมของบริษัทอีกด้วย หากเป็น A.I. เองคงไม่สามารถเข้าใจวัฒนธรรของแต่ละองค์กร หรือทีมได้อยู่แล้ว
  2. Psychologists: ปัจจุบันผู้คนส่วนมากแทบจะไม่อายเลยที่จะพบนักจิตวิทยา เพราะการได้พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญ ผู้ที่เข้าอกเข้าใจผู้อื่นนั้นเป็นอะไรที่ A.I. แทบจะไม่สามารถทำได้เลย อย่างที่เกริ่นไว้นั่นล่ะ! ถึงแม้ในภาพยนตร์มากมายจะโชว์เทคโนโลยีที่คาดการณ์ในอนาคตเอาไว้เกี่ยวกับ แต่สุดท้ายแล้ว ไม่มี A.I. ที่ไหนจะมาเข้าอกเข้าใจมนุษย์อย่างเราๆได้หรอก
  3. Marketing Strategist: Tools ต่างๆมากมายที่ตอนนี้นักการตลาดใช้จะอยู่ในโลกออนไลน์ แต่ถึงอย่างไร ก็ตาม digital marketing tools ทั้งหลายแหล่ ก็ยังจำเป็นต้องใช้การวางแผนของมนุษย์เราในการวิเคราะห์การตลาดหลังจาก ผ่านการประมวลผลของ AI มาแล้ว เช่น Google Ads อาจจะวิเคราะห์ให้กับนักการตลาดแล้วว่า พวกเขควรใช้ แคมเปญไหนในการดึงดูดลูกค้า แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่เพียงพอ ไม่อย่างนั้น Google จะจ้าง Google Account Strategist มาให้บริการ และคำแนะนำต่อลูกค้าของตัวเองทำไมกันล่ะ?
  4. Lawyers: การกลั่นกรองข้อเท็จจริงของคดีของลูกค้าเป็นคำถามทางกฎหมายที่ตรงประเด็นเป็นสิ่งที่เฉพาะความคิดสร้างสรรค์ของจิตใจมนุษย์เท่านั้นที่ทำได้ มีเพียงจิตใจของมนุษย์เท่านั้นที่มีทั้งความรู้และความเห็นอกเห็นใจ
  5. Caregivers: อย่างที่บอกไปว่า A.I. นั้นยังไม่สามารถมี soft skills และ ความเข้าอกเข้าใจได้ดีพอเท่ากับมนุษย์ ดังนั้นอาชีพ Caregiver หรือ ผู้ดูแลผู้ป่วยเป็นอะไรที่จำเป็นอย่างมาก โดยฉพาะในอนาคตที่ผู้สูงอายุทั่วโลกจะมีเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นอาชีพนี้ควรเป็นอะไรที่หลายๆคน และภาครัฐควรจะให้ความสำคัญ

รูพาลิ คอลว์ (Rupali Kaul) หัวหน้า HR Operation จาก Marching Sheep กล่าวเอาไว้ว่า 

“ระบบ Automation นั้นถูกตั้งโปรแกรมไว้ และนั่นทำให้มันไม่สามารถมีความคิดสร้างสรรค์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ รวมไปถึงการใช้จินตนาการ มีความฝัน และหาแรงบันดาลใจได้  ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่มนุษย์ทำได้ดีที่สุด”

นั่นหมายความการใช้ความคิดสร้างสรรค์ และ emotions นั้น A.I. จะยังไม่สามารถมาแทนที่มนุษย์ได้ อย่างน้อยก็ในอนาคตอันใกล้นี้นี่แหละ

อ้างอิง:

Malisz-Talha, B. (2022, December 15). Will AI Replace Humans? Artificial Intelligence vs. Human World. Synder Blog. https://synder.com/blog/5-reasons-why-ai-wont-replace-humans/ 

Sharma, S. (2023, April 25). Scared that ChatGPT will take your job? Skills or jobs that won’t be replaced by AI in future. The Economic Times. https://economictimes.indiatimes.com//news/how-to/skills-or-jobs-that-wont-be-replaced-by-automation-artificial-intelligence-in-the-future/articleshow/92600222.cms?utm_source=content 

เมื่อ Soft Skills แปรเปลี่ยนเป็น Power Skills

Highlights: ต้องยอมรับว่าหนึ่งในหัวข้อที่ฮอตฮิตมากที่สุดในแวดวงของธุรกิจในปัจจุบันนี้คือ การเพิ่มทักษะ (Upskilling) และการปรับทักษะใหม่ (Reskilling) เกี่ยวกับอนาคตของการทำงาน (Future of Work) องค์กรต่างๆ กำลังคว้านหาคอร์สเรียนจำนวนมากเพื่อพยายามที่จะ “เพิ่มทักษะ” ให้กับพนักงานของตัวเอง และพวกเขาเห็นผลลัพธ์ที่หลากหลาย Skills แบบไหน ที่องค์กรต่างใฝ่ฝันถึง? ปกติแล้วนั้นสกิลของพนักงานที่องค์กรมองหาจากพนักงาน มักจะหมายถึง

Breaking orthodoxies จะเกิดอะไรขึ้นถ้า..? – มาหัดตั้งคำถามให้องค์กรเติบโตกันเถอะ

Highlights: ด้วยโลกในปัจจุบัน บางบริษัทเลือกที่จะเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไปมากกว่าปรับตามให้ทันยุคสมัย และความต้องการของผู้บริโภค เนื่องจากพวกเขาให้ความสำคัญกับการรักษาตำแหน่งทางการตลาดในปัจจุบัน และขอแค่สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าที่มีอยู่มากกว่าที่จะคว้านหาการสร้างโอกาสใหม่ และด้วยสาเหตุนี้เอง ที่มักจะทำให้พวกเขาต้องถึงทางตันในการทำธุรกิจ ดังนั้น ทางออกแบบไหนกันที่จะทำให้องค์กรที่ไม่กล้าเสี่ยงแบบนี้เติบโตได้? รู้จัก Breaking Orthodoxies (การทำลายความเชื่อดั้งเดิมในธุรกิจ) การทำลายความเชื่อดั้งเดิมในธุรกิจ การท้าทายและตั้งคำถามถึงวิธีการทำสิ่งต่างๆ แบบเดิมๆ ออร์ทอดอกซ์เป็นข้อสันนิษฐาน หรือความเชื่อที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นจริงในอุตสาหกรรม ตลาด

รู้จัก ‘Penguin Effect’ จากคนธรรมดาพัฒนาเป็นเพนกวินผู้กล้า!

Highlight: ที่มาที่ไปของ Penguin Effectเพนกวินเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีพฤติกรรมน่าสนใจ และทำให้เราขมวดคิ้วอยู่บ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปรากฏการณ์นี้ เรียกว่า ‘Penguin Effect’ ที่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับพฤติกรรมของมนุษย์ได้อย่างเหลือเชื่อ! นกเพนกวินแม้ในขณะที่หิวโหยยังสามารถยืนท้าลมหนาวเป็นเวลานานบนชายฝั่ง หรือแผ่นน้ำแข็งร่วมกับฝูง พร้อมทั้งคอยพยายามผลักและดันตัวที่อยู่ข้างหน้าลงไปในน้ำ ซึ่งสาเหตุมาจากที่พวกมันไม่กล้ารีบเข้าไปเอง เพราะกลัวนักล่าอย่าง แมวน้ำ, สิงโตทะเล ,วาฬเพชฌฆาต หรือ แม้แต่ฉลาม