เส้นทางสู่การเป็น Role Model ที่ดีที่ใครก็เป็นได้

Share on facebook
Share on twitter

Highlights:

  • เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเร็วขึ้นแทบจะทุกคนต้องการแรงจูงใจที่ดีในรูปแบบของ Role Model ที่เราอยากจะทำตาม
  • การเรียนรู้และเข้าใจถึงความสำคัญของ Role Model จะสามารถช่วยให้เราพบตัวอย่างที่ดี และมีประสิทธิภาพในองค์กรของเราได้ หรือแม้กระทั่งช่วยให้เราต้นแบบที่ดีให้กับผู้อื่นได้อีกด้วย!

ก่อนอื่นเราควรมาทำความเข้าใจว่า Role Model คืออะไร? และทำไมถึงสำคัญกับการใช้ชีวิตเราขนาดนั้นนะ?

Role Model หมายถึง บุคคลที่เป็นตัวอย่างให้เราได้ทำตาม ทุกคนสามารถเลือกใครก็ได้สำหรับตนเองมาเป็นต้นแบบที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้น

Role Model มีความสำคัญต่อการเติบโตของมนุษย์ การมีแรงบันดาลใจจากตัวอย่างที่ดีจะช่วยให้เราเป็นคนที่เราอยากเป็น เพราะตัวอย่างที่ดีมีอิทธิพลต่อการกระทำของพวกเราและสามารถกระตุ้นให้เราพยายามเข้าถึงศักยภาพที่มีอยู่ และยังสามารถเป็นแรงผลักดันให้เอาชนะจุดอ่อนได้อีกด้วย!

การทำตาม หรือลอกเลียนแบบผู้อื่นเป็นเรื่องปกติธรรมชาติในสังคมมนุษย์

จากบทความของ New York Times มีนักวิจัยที่ศึกษาเซลล์ประสาทกระจกเงา (Mirror Neurons) ในสมองของมนุษย์ พบว่า มนุษย์เรานั้นมีสายสัมพันธ์กันเพื่อเรียนรู้ผ่านการสังเกต และภายในระดับหนึ่งก็ลอกเลียนแบบสิ่งที่พวกเขาเห็น ซึ่งจึงไม่แปลกที่มนุษย์ทุกคนจะต้องการมีใครสักคนมาเป็นแรงบันดาลใจที่เราอยากจะทำตามอย่างเขา

มากไปกว่าการที่เราจะมี Role Model เป็นของตัวเองแล้ว เราก็ยังสามารถเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนอื่นได้เหมือนกัน โดยเฉพาะถ้าเราอยู่ในที่ทำงานแล้ว การเป็นแบบอย่างให้เพื่อนร่วมทีม ถือว่าเป็นสิ่งที่

ในโลกของการทำงาน.. เป้าหมายของใครหลายคนก็คงอยากมีชีวิตที่มั่นคงในอนาคต  และเพื่อให้สิ่งนี้เกิดขึ้น หน้าที่การงานที่มั่นคงจะช่วยให้เราสร้างชีวิตที่ดีขึ้นได้.. ฟังดูเหมือนง่าย แต่น่าเสียดายที่มันไม่ง่ายอย่างที่คิดน่ะสิ!

ต้องเริ่มอย่างไรถ้าอยากเป็นต้นแบบที่ดีให้คนอื่นบ้าง?

หากเราเชื่อว่าเราสามารถเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับผู้อื่นได้ แต่ไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน ในบทความนี้ Mydemy ได้สรุปมาให้ทุกคนกันแล้ว ดังนี้:

  • ก่อนจะเป็น Role Model ให้ผู้อื่นนั้น เราเองก็ต้องมีต้นแบบที่ดีให้ตัวเองเหมือนกัน: วิธีในการเลือก Role Model ให้แก่ตัวเองนั่น เราควรพยายามนึกถึงคนที่มีอิทธิพลต่อเราและควรเลือกคนที่มีคุณสมบัติที่เราชื่นชมหรือต้องการทำตามอย่างเขา

นึกแล้วก็อาจจะน่ากลัวอยู่หรอกนะ หากรู้สึกว่าระหว่างตัวเราเองกับ Role Model ของเรานั้นช่างแตกต่างกันเหลือเกิน แต่นั่นแหละ นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความก้าวหน้าของเราเท่านั้น เพราะเจ้าความต่างตรงนี้จะมาช่วยเป็นแรงผลักดันให้เราพยายามพัฒนาตัวเอง เพื่อให้ช่องว่างนั้นมันเล็กลง และหายไปในที่สุด

  • อย่ากลัวที่จะถามคำวิจารณ์จากคนรอบข้างโดยเฉพาะเพื่อนร่วมงาน หรือหัวหน้าของเรา: ปกติแล้วคนเรามักจะไม่ค่อยกล้ารับฟังความคิดเห็นจากคนอื่นเท่าไรนัก อาจด้วยเพราะกลัวผิดหวัง แต่ถ้าหากอยากเป็นตัวอย่างที่ดี การกล้ารับฟังคำติชมจากผู้อื่นถือว่าเป็นเรื่องที่น่านับถืออย่างมาก  เพราะนั่นหมายความว่าเรากล้าที่จะเผชิญหน้ากับความจริง และพร้อมที่จะปรับปรุงในเรื่องที่ควรแก้ไขให้ดีขึ้น
  • หมั่นหาโอกาสและฝึกฝนตัวเอง: ไม่ว่าเราจะทำอะไร การฝึกฝนถือเป็นสิ่งที่สำคัญ อย่างที่บอกไปตั้งแต่เนิ่นๆ ว่าหากเรารู้แล้วว่าเป้าหมายของเราคืออะไรจากแรงบันใจดาลใจนี้ การพยายามฝึกฝนถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราพัฒนาตัวเองไปให้ถึงจุดหมายปลายทางที่เรากำหนดไว้ได้

Practice makes Perfect!

  • ปรับวิธีคิดตัวเองด้วย Growth Mindset: อย่ากลัวความล้มเหลวเมื่อเกิดข้อผิดพลาดไปแล้ว ให้คิดไว้เสมอว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสู่ความสำเร็จแทนจะดีที่สุด เพราะมนุษย์เรามักจะเรียนรู้ และเติบโตจากข้อผิดพลาดอยู่ตลอดเวลา 

การคิดบวกจะช่วยให้เราพยายามที่จะพัฒนาและหาแนวทางแก้ไขให้ได้ดีมากขึ้น ยิ่งคนอื่นได้เห็นว่าเราไม่กล้วที่จะพลาด เขาก็จะยิ่งชื่นชมและมั่นใจง่าเราเป็นแบบอย่างที่ดีได้อีกด้วย

อ้างอิง:

Blakeslee, S. (2006, January 10). Cells that read minds. The New York Times. https://www.nytimes.com/2006/01/10/science/cells-that-read-minds.html

Duff, S. How to be an effective role model. Pearn Kandola. https://pearnkandola.com/diversity-and-inclusion-hub/leadership/how-to-be-a-role-model/ 
Fayyaz, N. (2018, September 29). Why role models are important. DAWN. https://www.dawn.com/news/1435581

ทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์: ประเทศไทยเริ่มแล้วหรือยัง?

Highlight: “หากคุณดูผลกระทบของการแพร่ระบาดต่อการทำงาน เรามักจะให้ความสำคัญกับสถานที่ทำงานมากเกินไป อันที่จริงการทำงานจากระยะไกลและแบบผสมผสานสามารถก่อให้เกิดประโยชน์มากมาย แต่นั่นก็ยังไม่สามารถขจัดความเหนื่อยหน่ายและการทำงานหนักเกินไปได้”  – โจ โอคอนเนอร์ (Joe O’Connor)  กรรมการบริหารของ 4 Day Week Global เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2565

Slash Career – คุ้มไหมนะ ถ้าอยากมีมากกว่า 1 อาชีพ?

Highlights: มนุษย์เงินเดือนหลายคนพบว่า การทำงานประจำ หรือมีแค่อาชีพเดียวนั้นเป็นสิ่งที่น่าเบื่อหน่ายเกินไป ไม่ได้รู้สึกชอบ หรือรายรับอาจจะไม่เพียงพอต่อการดำรงวิติ ถ้าอย่างนั้น.. จะเป็นไปได้ไหมที่เราจะเลือกทำ (อย่างน้อย) สองอาชีพในเวลาเดียวกัน หรือมันจะดีกว่ารึเปล่าที่จะมุ่งมั่นไปที่สิ่งเดียว? Slash career เป็นคำที่ใช้เรียกของอาชีพที่คนเลือกทำงานหลายอย่างในเวลากันเดียว  ซึ่งคนเหล่านี้ก็ถูกเรียกว่า Slashies บางคนอาจจะมีสองงาน หรือมากกว่านั้นก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น สมมติว่าเราเป็น

เพราะอะไร? ทำไมถึงตัดสินใจลาออกจากงานกันง่ายขึ้น?

Highlight: เคยสังเกตกันไหมว่าผู้คนที่ทำงานในที่ใดที่หนึ่ง หรือสายงานใดสายงานหนึ่งเป็นระยะเวลานานมากๆ อย่างน้อยประมาณ 3-5 ปี เป็นอย่างต่ำ จะไม่ค่อยลาออกจากงานกันง่ายๆ หากเทียบกับยุคสมัยใหม่นี้ การลาออกจากงาน หรือย้ายสายงาน กลับกลายเป็นเรื่องธรรมดาซะอย่างนั้น? ในช่วงระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายนที่ผ่านมา McKinsey ได้ทำการสำรวจกลุ่มผู้คนในตลาดแรงงานมากกว่า 13,000 คนทั่วโลก พบว่ากว่า 40% ของคนกลุ่มนี้